ລື້: Difference between revisions

Content deleted Content added
No edit summary
No edit summary
ແຖວ 3:
ຕອນທ້າຍສະຕະວັດທີ XIII ເປັນຕົ້ນມາ. ປະຈຸບັນ ຊົນເຜົ່າລື້ ທີ່ອາໃສຢູ່ ສປປ ລາວ ນັ້ນສ່ວນຫລາຍຕັ້ງຖິ່ນຖານ ແລະ ທຳມາຫາກິນຢູ່ທາງພາກເໜືອຂອງ ລາວ ເຊັ່ນ: ແຂວງ ຜົ້ງສາລີ, ຫລວງນ້ຳທາ,
ບໍ່ແກ້ວ, ອຸດົມໄຊ, ໄຊຍະບູລີ, ຫລວງພະບາງ ເປັນຕົ້ນ. ຖ້າທຽບໃສ່ພົນລະເມືອງໃນປະເທດລາວແລ້ວເຫັນວ່າຊົນເຜົ່າລື້ມີອັດຕາກວມເອົາເກືອບ 3 %. ນອກຈາກມີຢູ່ລາວແລ້ວ, ຊົນເຜົ່າລື້ ຍັງມີຢູ່ ຈີນ, ມຽນມາ ແລະ ຫວຽດນາມ. ຊົນເຜົ່ານີ້ ມີພາສາປາກເວົ້າເປັນຂອງຕົນເອງຈັດຢູ່ໃນໝວດພາສາລາວ-ໄຕ ພ້ອມກັນນີ້ເຂົາເຈົ້າຍັງມີຕົວໜັງສືຂຽນເປັນຂອງຕົນເອງ ເອີ້ນວ່າ [[ຕົວທຳລື້]] , ສ່ວນຫລາຍຈະພົບເຫັນຢູ່ໃນໃບລານ ເຊິ່ງມີລັກຊະນະຄ້າຍຄືຕົວທຳລາວ.
{{รอการตรวจสอบ}}
:''สามารถดูกลุ่มเชื้อชาติไท ที่คล้ายกันได้ ในบทความ [[ชาวไทยอง]]''
{{Infobox Ethnic group|
|group=ไทลื้อ (ไตลื้อ)
|image=
|poptime= ประมาณ 1.5 - 2 ล้านคน
|region1 = {{flagicon|China}} [[สาธารณรัฐประชาชนจีน]]
|pop1 = 1,158,989<ref>http://www.china.org.cn/english/features/EthnicGroups/136902.htm</ref>
|region2 = {{flagicon|Myanmar}} [[ประเทศพม่า]]
|pop2 = 200,000<ref>http://www.ethnologue.com/show_language.asp?code=khb</ref>
|region3 = {{flagicon|Laos}} [[ประเทศลาว]]
|pop3 = 134,000<ref>http://www.ethnologue.com/show_language.asp?code=khb</ref>
|region4 = {{flagicon|Thailand}} [[ประเทศไทย]]
|pop4 = 83,000<ref>http://www.ethnologue.com/show_language.asp?code=khb</ref>
|region5 = {{flagicon|Vietnam}} [[ประเทศเวียดนาม]]
|pop5 = 4,960<ref>http://www.ethnologue.com/show_language.asp?code=khb</ref>
|langs=[[ภาษาจีน]], [[ภาษาลื้อ]], [[ภาษาไทเหนือ]], [[ภาษาไทดำ]], [[ภาษาลาว]], [[ภาษาไทย]], [[ภาษาพม่า]]
|rels=[[พระพุทธศาสนา]][[นิกายเถรวาท]]
|related=
}}
 
'''ไทลื้อ''' หรือ '''ไตลื้อ''' เป็น[[ชาวไท]]กลุ่มหนึ่ง มีถิ่นฐานเดิมอยู่ในแถบ[[สิบสองปันนา]]ของ[[ประเทศจีน|จีน]] มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือการใช้[[ภาษาไทลื้อ]] และยังมีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์อื่นๆ เช่น การแต่งกาย ศิลปะและประเพณีต่างๆ
 
 
== การอพยพ ==
เดิมชาวลื้อ หรือไทลื้อ มีถิ่นที่อยู่บริเวณ [[เมืองลื้อหลวง]] จีนเรียกว่า "ลือแจง" ต่อมาได้เคลื่อนย้ายลงมาอยู่บริเวณ[[เมืองหนองแส]] หรือที่เรียกว่าคุนหมิงในปัจจุบัน แล้วย้ายลงมาสู่ลุ่มน้ำน้ำโขง สิบสองปันนาปัจจุบัน ประมาณศตวรษที่ 12 จึงเกิดมีวีรบุรุษชาวไทลื้อชื่อ [[เจ้าเจื๋องหาญ]] ได้รวบรวมหัวเมืองต่าง ๆ ในสิบสองปันนาปัจจุบันตั้งเป็นอาณาจักรแจ่ลื้อ (เซอลี่) โดยได้ตั้งศูนย์อำนาจการปกครองเอาไว้ที่หอคำเชียงรุ่ง นาน 790 ปี ต่อมาถึงสมัย[[เจ้าอิ่นเมือง]] ครองราชต่อมาในปี ค.ศ. 1579-1583 (พ.ศ. 2122-2126) ได้แบ่งเขตการปกครองเป็นสิบสองหัวเมือง แต่ละหัวเมืองให้มีที่ทำนา 1,000 หาบข้าว (เชื้อพันธุ์ข้าว) ต่อมาหนึ่งที่/หนึ่งหัวเมือง จึงเป็นที่มาจนถึงปัจจุบันเมืองสิบสองปันนาได้แบ่งเขตการปกครองเอาไว้ในอดีตดังนี้ (ที่มาของคำว่า สิบสองปันนา หรือ สิบสองเจ้าไต)
 
ชาวไทลื้ออาศัยอยู่สองฝั่ง[[แม่น้ำโขง]] คือ ด้านตะวันออกและตะวันตกของแม่น้ำ มีเมืองต่างๆ ดังนี้ภาษาไทลื้อ ได้กล่าวไว้ว่า ห้าเมิงตะวันตก หกเมิงตะวันออก รวมเจียงฮุ่ง ([[เชียงรุ้ง]]) เป็น 12 ปันนา และทั้ง 12 ปันนานั้น ยังมีเมืองน้อยอีก 32 หัวเมือง เช่น
* '''ฝั่งตะวันตก''' : [[เชียงรุ่ง|เชียงรุ้ง]], เมืองฮำ, เมืองแช่, เมืองลู, เมืองออง, เมืองลวง, เมืองหุน, เมืองพาน, เมืองเชียงเจิง, เมืองฮาย, เมืองเชียงลอ และเมืองมาง
* '''ฝั่งตะวันออก''' : เมืองล้า, เมืองบาง, เมืองฮิง, เมืองปาง, เมืองลา, เมืองวัง, เมืองพง, เมืองหย่วน, เมืองบาง และเมืองเชียงทอง ([[หลวงพระบาง]])
 
การขนายตัวของชาวไทยลื้อสมัยรัชกาลที่ 24 เจ้าอินเมืองได้เข้าตี[[เมืองแถน]] [[เชียงตุง]] [[เชียงแสน]] และ[[ล้านช้าง]] กอบกู้บ้านเมืองให้เป็นปึกแผ่น พร้อมทั้งตั้งหัวเมืองไทลื้อเป็นสิบสองเขต เรียกว่า สิบสองปันนา และในยุคนี้ได้มีการอพยพชาวไทลื้อบางส่วนเพื่อไปตั้งบ้านเรือนปกครองหัวเมืองประเทศราชเหล่านั้น จึงทำให้เกิดการกระจายตัวของชาวไทลื้อ ในลุ่มน้ำโขงตอนกลาง ([[รัฐฉาน]]ปัจจุบัน) อันประกอบด้วยเมืองยู้ เมืองยอง เมืองหลวย เมืองเชียงแขง เมือง[[เชียงลาบ]] เมืองเลน เมืองพะยาก เมืองไฮ เมืองโก และเมือง[[เชียงทอง]] (ล้านช้าง) [[เมืองแถน]](เดียนเบียนฟู)
 
 
ชาวไทลื้อบางส่วนได้อพยพ หรือ ถูกกวาดต้อน ออกจากเมืองเหล่านี้เมื่อประมาณหนึ่งร้อยถึงสองร้อยปีที่ผ่านมา แล้วลงมาตั้งถิ่นฐานใหม่ใน[[ประเทศ]]ตอนล่าง เช่น [[ประเทศพม่า|พม่า]], [[ประเทศลาว|ลาว]] และ[[ประเทศไทย|ไทย]]
 
ในสมัยรัชกาลที่ 1 [[เจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญ]] (เจ้าผู้ครองนครน่าน) และ[[เจ้าสุมนเทวราช]] (เจ้าผู้ครองนครน่าน) ยกกองทัพขึ้นไปกวาดต้อนชาวไทลื้อจากสิบสองปันนามายังเมืองน่าน และเมืองบางส่วนในประเทศลาว และต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 [[เจ้าสุริยะพงษ์]] (เจ้าผู้ครองนครน่าน) ก็ได้ยกกองทัพขึ้นไปกวาดต้อนชาวไทลื้อจากสิบสองปันนามายังเมืองน่าน <ref>http://www.painaima.com/topic.php?mcat_id=5&scat_id=1&topic_id=662</ref>
 
 
=== ไทยอง ===
ในราวพุทธศตวรรษที่ 19 '''[[เจ้าสุนันทะ]]''' โอรสเจ้าเมือง[[เชียงรุ้ง]] ได้พาบริวารชาวไทลื้อจากเมืองเชียงรุ้ง เข้ามาปกครองเมืองยองเหนือคนพื้นเมือง ซึ่งเป็น[[ชาวลัวะ]] โดยมีทั้งปัจจัยสนับสนุน ได้แก่
* การผสมผสานระบบความเชื่อและพิธีกรรม และ [[พระพุทธศาสนา]]ที่เข้ามาในภายหลัง
* ความสัมพันธ์ทางเครือญาติ และระบบบรรณาการกับเมือง[[เชียงรุ้ง]] [[เชียงตุง]]และการสร้างพันธมิตรทางการเมืองกับกลุ่มเมืองในที่ราบเชียงราย บนฝั่งแม่น้ำโขงตอนกลาง เช่น [[อำเภอเชียงแสน|เชียงแสน]] [[อำเภอเชียงของ|เชียงของ]] เป็นต้น
 
ดังนั้น ชาวไทยอง กับ ชาวไทลื้อก็คือ ญาติกันนั่นเอง
 
== ไทลื้อปัจจุบัน ==
 
ปัจจุบันชาวไทลื้อกระจายตัวอยู่ที่
* [[ประเทศพม่า]] มีแถบเมืองยอง เมืองยู้ เมืองหลวย [[เมืองเชียงลาบ]] เมืองไร เมืองพะยาก เมืองโก เมืองโต๋น เมืองเลน เชียงตุง
* [[ประเทศลาว]] เมืองหลวงน้ำทา เมืองหลวงพูคา เมืองบ่อแก้ว ไชยะบุลี (เชียงฮ่อนเชียง เชียงลม หงสา) เมืองหลวงพะบาง
* [[ประเทศไทย]] เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน พะเยา ลำปาง แพร่ น่าน
* [[ประเทศเวียดนาม]] เมืองแถน
 
 
 
สำหรับในประเทศไทย มีชาวไทลื้อในหลายจังหวัดทาง[[ภาคเหนือ]]ตอนบน ดังนี้
* [[จังหวัดเชียงราย|เชียงราย]] : [[อำเภอแม่สาย]] [[อำเภอเชียงของ]] [[อำเภอเชียงแสน]](ส่วนหนึ่งได้อพยพไปเมือง[[เชียงรุ้ง]] เมื่อเกิดสงครามไทยพม่า)
* [[จังหวัดเชียงใหม่|เชียงใหม่]] : [[อำเภอสะเมิง]] [[อำเภอดอยสะเก็ด]] [[อำเภอสันกำแพง]] [[กิ่งอำเภอแม่ออน]]
* [[จังหวัดน่าน|น่าน]] :
 
[[อำเภอเมืองน่าน]] (ต.ในเวียง บ้านเชียงแขง บ้านเมืองเล็น)
 
[[อำเภอท่าวังผา]] มีชาวไทลื้ออยู่ 5 ตำบล คือ ต.ศรีภูมิ บ้านห้วยเดื่อ ต.ป่าคา เป็นชาวไทลื้อที่มาจากเมืองล้า มี 5 ประกอบด้วยหมู่บ้าน บ้านหนองบัว บ้านดอนแก้ว บ้านต้นฮ่าง บ้านดอนมูล บ้านแฮะ ,[[ตำบลยม]] มีชาวไทลื้อ 5 หมู่บ้านเป็นชาวไทลื้อที่มาจากเมือง[[เชียงลาบ]] และ[[เมืองยอง]] ประกอบด้วย บ้านลอมกลาง บ้านทุ่งฆ้อง บ้านเชียงยืน บ้านเสี้ยว บ้านหนองช้างแดง ,ต.จอมพระ เป็นชาวไทลื้อที่อพยพมาจาก[[เมืองยอง]]และ[[เมืองยู้]]มีชาวไทลื้อ 5 หมู่บ้าน บ้านถ่อน และถ่อนสอง บ้านยู้ บ้านยู้เหนือ บ้านยู้ใต้
 
[[อำเภอปัว]] เป็นอำเภอที่มีชาวไทลื้ออยู่มากที่สุด ประกอบด้วย ต.ศิลาเพชรเป็นชาวไทลื้อที่อพยพมาจากเมืองยอง มี 7 หมู่บ้าน บ้านป่าตอง3หมู่บ้าน บ้านดอนไชย บ้านนาคำ บ้านดอนแก้ว ,ตำบลศิลาแลง เป็นชาวไทลื้อที่อพยพมาจาก[[เมืองยอง]] บ้านเก็ด บ้านหัวน้ำ บ้านตีนตก เป็นต้น ต.วรนคร บ้านดอนแก้ว บ้านร้องแง บ้านมอน บ้านขอน บ้านป่าลานเป็นต้น ตำบลสถาน เป็นชาวไทลื้ออพยพมาจากเมือง[[เชียงลาบ]] มี 3 หมู่บ้าน นอกนั้นในยังมีอีกไม่ต่ำกว่า 20 หมู่บ้านในอำเภอปัวที่เป็นชาวไทลื้อ
 
[[อำเภอเชียงกลาง]]
 
[[อำเภอสองแคว]] มีชาวไทยลื้ออาศัยอยู่ที่ตำบลยอด ที่บ้านปางส้าน บ้านผาสิงห์และบ้านผาหลัก
 
[[อำเภอทุ่งช้าง]] บ้านงอบ บ้านปอน ห้วยโก๋น และส่วนที่อพยพเข้ามาใหม่ ซึ่งจะอยู่ปะปนกะชาวเมืองน่านแถบชายแดน (มีจำนวนมากที่สุด อพยพมาจาก [[แขวงไซยะบูลี|แขวงไชยะบุรี]] และ [[สิบสองปันนา]])
 
* [[จังหวัดพะเยา|พะเยา]] : [[อำเภอเชียงม่วน]] [[อำเภอเชียงคำ]] (มีจำนวนมาก) [[อำเภอภูซาง]]
* [[จังหวัดลำปาง|ลำปาง]] : อำเภอเมือง [[อำเภอแม่ทะ]]
* [[จังหวัดลำพูน|ลำพูน]] : อำเภอเมือง [[อำเภอบ้านธิ]]
 
ส่วนในต่างประเทศนั้น มีการกระจายตัวกันเกือบทุกประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เช่นใน[[รัฐฉาน]] [[ประเทศพม่า]] [[ประเทศลาว]] [[ประเทศเวียดนาม]](เมืองแถน และ เมือง[[เดียนเบียนฟู]] ก็มีการบันทึกไว้ว่ามีชาวไทลื้อ อยู่ที่นั่นด้วย)
 
== วัฒนธรรม ==
 
ชาวไทลื้อมีชีวิตที่คล้ายคลึงกับ[[ชาวไทย]]หรือชนเผ่าอื่นๆทางภูมิภาค คือมีการสร้างบ้านเรือนเป็นบ้านไม้ มี[[ใต้ถุนสูง]] มีครัวไฟบนบ้าน ใต้ถุนเลี้ยงสัตว์ แต่ในปัจจุบันวิถีชีวิตได้เปลี่ยนไป การสร้างบ้านเรือนก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย บ้านที่ยังคงสภาพเป็นเรือนไม้แบบเดิมยังพอจะมีให้เห็นบ้างในบางชุมชน เช่น บ้านหย่วน อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา
 
ชาวไทลื้อส่วนใหญ่เป็นพุทธศาสนิกชนที่เคร่งครัด นิยมสร้างวัดในชุมชนต่างๆ แทบทุกชุมชนของชาวไทลื้อ ทั้งยังตกแต่งด้วยศิลปะและสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์งดงาม มีการบูรณะ ซ่อมแซม ให้คงสภาพดีอยู่เสมอแม้ในปัจจุบัน
 
ศิลปะที่โดดเด่นของชาวไทลื้อได้แก่งานผ้าทอไทลื้อ นิยมใช้ผ้าฝ้าย ทอลวดลายที่เรียกว่า '''ลายน้ำไหล''' ปัจจุบันมีการฟื้นฟูและถ่ายทอดศิลปะการทอผ้าแบบไทลื้อในหลายชุมชนของภาคเหนือ
 
ผู้ชายไทลื้อส่วนใหญ่จะนิยมสวมเสื้อขาวแขนยาว สวมทับด้วยเสื้อกั๊กปักลวดลายด้วยเลื่อม สวมกางเกง[[ม่อฮ่อม]]ขายาวโพกหัวด้วยผ้าสีขาวหรือชมพู ส่วนหญิงไทลื้อนิยมสวมเสื้อปั๊ด (เป็นเสื้อที่ไม่มีกระดุมแต่จะสะพายเฉียงมาผูกไว้ที่เอวด้านข้าง) นุ่งซิ่นลื้อ สะพายกระเป๋าย่ามและนิยมโพกศีรษะด้วยผ้าขาวหรือชมพู<ref>http://www.lannacorner.net/weblanna/article/article.php?type=A&ID=482</ref>
 
เรื่องของชาวไทลื้อ ซึ่งบรรพบุรุษได้อพยพมาจากเมืองยอง เมืองยู้ เมืองเชียงลาบ (เมืองทั้งหมดนี้อยู่ใน[[รัฐฉาน]] [[ประเทศพม่า]]) และชาวไทยอง (คนเมือง คนที่มีถิ่นฐานดั่งเดิมอยู่ในเขตจังหวัดล้านนา) นั้น มีความเกี่ยวข้องกันมาก ดังนั้นจึงอาจจะไม่สามารถแบ่งแยกกันได้
 
'''[[สมเด็จพระเจ้าหอคำเชียงรุ่ง 1]]''' (พญาเจื๋อง) เป็นปฐมกษัตริย์ของชาวไทลื้อ แห่งราชวงค์อาฬโวสวนตาล จนถึงสมเด็จพระเจ้าหอคำเชียงรุ่งที่ 41 [[เจ้าหม่อมคำลือ]] (ตาวซินซือ) ก่อสิ้นสุดลงเพราะรัฐบาลจีนได้ถอดท่านถอนท่านออกจากการเป็นเจ้าฯ ส่วนพระอนุชาได้ลี้ภัย มาอยู่ที่[[อำเภอแม่สาย]] หม่อมตาลคำ ได้ลี้ภัยมาอยู่กรุงเทพ
 
 
== อ้างอิง ==
<references />
 
 
{{ชาวไท}}
 
{{เผ่าในไทย}}
[[หมวดหมู่:ชาวไท|ลื้อ]]
[[หมวดหมู่:ชนกลุ่มน้อยในประเทศจีน|ท]]
 
[[bo:ཏའེ་མི།]]
[[de:Dai (Volk)]]
[[en:Dai people]]
[[eo:Dajoj]]
[[es:Dai]]
[[fi:Dait]]
[[fr:Dai (ethnie)]]
[[it:Dai (popolo)]]
[[ko:다이족]]
[[lt:Dajai]]
[[nl:Dai (volk)]]
[[no:Dai (folk)]]
[[pl:Dai (mniejszość narodowa)]]
[[ru:Дайцы]]
[[sh:Dai]]
[[ug:دەيزۇ مىللىتى]]
[[vi:Người Thái (Trung Quốc)]]
[[wuu:傣族]]
[[zh:傣族]]
ດຶງຂໍ້ມູນຈາກ "https://lo.wikipedia.org/wiki/ລື້"